ถึงแม้ว่าจะเป็นนักศึกษาแล้ว แต่ยังมีเวลากำหนดการกลับบ้านตอนกลางคืนอย่างเข้มงวด

“ภาษาไทยมีคำกล่าวไว้ว่า ลำหรับพ่อแม่ ลูกยังเป็นเด็กเสมอ”
「タイ語には『両親にとって子供はいつまでも子供』という言葉があるわ」

เมื่อเวลา 21.50 น. หน้าบ้านบัวแถวชุมชนเมืองที่แขตบางกอกน้อย ผมทานข้าวที่ร้าน “ต้มยำกุ้ง” แถวข้าวสารก่อนขับรถส่งบัวที่บ้านแล้ว
ิีバーンゴークノーイ区の住宅街にあるブワの実家前、午後9時50分。カーオサーン通りのタイ料理店「トムヤムグング」で夕食をとってから、クルマでブワを送り届けた。

“จะกลับมากี่ทุ่ม!!”
「夜中の何時になったら帰ってくるつもりなんだ!?」

บัวโดนพ่อต่อว่าเขาอย่างแรง แต่คิดไปคิดมาเวลา 3 ทุ่ม 50 นี้ สำหรับคนญี่ปุ่นอย่างผมคงไม่ใช่เวลาตอนกลางดึกสักหน่อย ผมก็เลยรู้สึกว่ากระโดดชนกับกำแพงสูงของวัฒนธรรมไทยอีกแล้ว ซึ่งแตกต่างกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นไม่น้อย
ブワは父親から強い調子で叱責された。しかし、よくよく考えてみると、僕のような日本人には午後9時50分という時間が夜中の時間帯という感覚がない。またしても、日本文化との隔たりが大きいタイ文化の壁にぶつかったような気分になった。

ผมมีความคิดว่า สำหรับคนญี่ปุ่นทั่วไปแล้ว อาจกำหนดเกณฑ์มาตรฐานของเวลากำหนดการกลับบ้านตอนกลางคืนไว้ว่า สำหรับนักเรียนประถมคงเป็น 1 ทุ่มครึ่ง นักเรียนมัธยมต้นคงเป็น 2 ทุ่มครึ่ง นักเรียนมัธยมปลายคงเป็น 4 ทุ่ม และ นักศึกษามหาวิทยาลัยคงเป็น ตี2 แต่ครอบครัวของคนไทยส่วนมาก น่าจะมีเกณฑ์มาตรฐานของเวลากำหนดการกลับบ้านตอนกลางคืนไม่เหมือนกับญี่ปุ่น
おそらく一般的な日本人にとっての門限とは、小学生が午後7時、中学生が午後8時半、高校生が午後10時半、大学生が終電ではないだろうか。ところが、どうやら一般的なタイ人家庭には、それとは全く異なる基準の門限があるのかもしれない。

หันมานึกคำพูดของเขาอีกแล้ว เขาก็พูดบ่อย ๆ ว่า
思い返せば、彼女はしばしば僕にこんなことを言う。

“อย่างไร เราไปโรงเรียนแวะเจอกับเคอิชิใช่มั้ย แต่สำหรับสายตาของพ่อแม่นะ เราคิดว่ากลับบ้านก่อนพระอาทิตย์ตกดีกว่า เพราะวันคริสต์มาสกับปีใหม่ เราจะไปเที่ยวดึก ๆ ใช่มั้ย ถ้าทำแบบนี้ไว้ พ่อแม่ก็อาจจะไม่ห้าม”
「やっぱり今日は学校帰りなんだし、親の手前、自主規制として日没前には家に着いていなきゃね。早めに帰宅しておけば、クリスマスとか正月とかに両親が特別に夜中の帰宅を認めてくれるかもしれないし」

หลังจากกลับมาถึงบ้านแล้วปรึกษากับเพื่อนนักศึกษาคนหนึ่ง ผมบอกว่า ถ้ามีการดูแลลูกมากเกินไปขนาดนี้ อาจจะทำให้เด็กเป็นเด็กเสมอไม่เติบโตเลย นอกจากนี้ยกตัวอย่างคำกล่าวไว้ของภาษาญี่ปุ่นว่า ถ้ารักลูก ต้องให้ไปเที่ยว แต่เขาก็กลับมาบอกว่า
帰宅後、僕は別の大学生の友人に相談を持ちかけた。僕は「こんなに過保護にしていては、子供はいつまでも子供のままで決して成長しない。日本には『可愛い子には旅をさせろ』という慣用句がある」と言ったところ、友人は逆にタイの慣用句を引用してこう切り返した。

“จริง ๆ แล้ว เราก็ยอมรับว่า นิสัยคนไทยอาจจะเด็กกว่าคนญี่ปุ่นก็ได้ แต่พ่อแม่ไม่ควบคุมลูกเลยก็แย่เหมือนกันนะ อย่างไรต้องยอมรับค่านิยมที่ตางกันแล้วค่อยปรับ”
「私もタイ人の性格が日本人より子供っぽいことは認めるわ。でも、放任主義も同じくらい問題よ。まあ価値観の違いということで、相手に合わせるしかないでしょうね」

แต่ตามความคาดหมายแล้ว ผมสงสัยว่า การปรับกับค่านิยมแบบนี้ มีผลต่อการดำเนินชิวิตที่สมบูรณ์ในประเทศไทยของเราหรือเปล่า
しかし、このような価値観に迎合することが、本当に僕のタイ生活を豊かにすることに繋がるのかどうか疑問に思う。

ABOUTこの記事をかいた人

バンコク留学生日記の筆者。タイ国立チュラロンコーン大学文学部のタイ語集中講座、インテンシブタイ・プログラムを修了(2003年)。同大学の大学院で東南アジア学を専攻。文学修士(2006年)。現在は機械メーカーで労働組合の執行委員長を務めるかたわら、海外拠点向けの輸出貿易を担当。